𝐆𝐫𝐨𝐬𝐬 𝐎𝐩𝐞𝐫𝐚𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐏𝐫𝐨𝐟𝐢𝐭 𝐏𝐞𝐫 𝐀𝐯𝐚𝐢𝐥𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐑𝐨𝐨𝐦 (𝐆𝐎𝐏𝐏𝐀𝐑)

ความต่างข้อหนึ่งของ บัญชีโรงแรม และ บัญชีของกิจการอื่นๆ คือ เรามักจะเปรียบเทียบต่อห้องพักด้วยไม่ว่าจะเป็น REVPAR(Revenue per Available Room) หรือแม้แต่ในระดับ GOP (Gross Operating Profit) เราก็ดูกันจนถึง GOPPAR (Gross Operating Profit per Available Room) ตัวเลขนี้จะบอกเราว่า ต่อหนึ่งห้องพัก เราทำกำไรจากการบริหารงานได้เท่าไหร่ และส่วนใหญ่เราจะดูควบคู่กันไปกับ REVPAR ถ้า REVPAR เพิ่มขึ้น แต่ GOPPAR ลดลงนั่นแปลว่า รายได้ต่อห้องเพิ่มขึ้นแต่กำไรกลับลดลง ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องเข้าไปดูที่ต้นทุนแล้วว่ามีการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนอย่างไร

𝐆𝐎𝐏𝐏𝐀𝐑 = 𝐆𝐎𝐏 / 𝐓𝐨𝐭𝐚𝐥 𝐀𝐯𝐚𝐢𝐥𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐑𝐨𝐨𝐦𝐬

โดยปกติโรงแรมจะปิดยอดบัญชีเดือนละ 1 ครั้ง เพราะฉะนั้น Total Available Room จึงเท่ากับ จำนวนห้องพักทั้งหมดที่โรงแรมมี คูณด้วย จำนวนวันของเดือนนั้นๆ เช่น โรงแรมมี 100 ห้อง เดือนมกราคม มี 31 วัน เพราะฉะนั้น Total Available Rooms คือ 100 x 31 = 3,100 นั่นเอง

เพราะ Revenue Manager ไม่ได้รับผิดชอบแค่เฉพาะในส่วนของ Top Line แต่รับผิดชอบ Bottom Line ด้วย การวิเคราะห์ GOPPAR นอกจากจะเพิ่มแค่ Revenue แล้ว ยังจะช่วยให้เราวางแผนกลยุทธ์ที่จะทำกำไรเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ของ GOPPAR นอกจะใช้วัด Financial performance, วัดผลกำไร, ควบคุม cost, ใช้เป็น Benchmark (แต่โรงแรมประเทศไทยเองก็ไม่ได้แชร์ข้อมูลกันลึกระดับนั้น ยกเว้นคนที่ participate financial program ของ STR ซึ่งเค้าจะโปรโมทให้เข้าร่วมปีละครั้ง) และเจ้า GOPPAR ยังบอกเราได้ด้วยว่า Value ของ products and services ของเราเป็นอย่างไรในสายตาของลูกค้า

ถ้าขายห้องเปล่าๆไม่ได้ต้องแถมโน่นนี่จน cost บาน แปลว่า ลูกค้าไม่ได้ให้คุณค่ากับ products ของเราจริงๆ หรือลูกค้าลังเลที่จะจ่ายในราคาที่สูง การที่ลูกค้าลังเลที่จะซื้อราคาแพงขึ้นนั้นแปลว่า value perception ของลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้เท่ากับหรือมากกว่าราคาที่เราขาย เราถึงต้องเร่งปรับปรุงสินค้าและพัฒนาบริการ

วันนี้ 𝐑𝐞𝐯𝐏𝐥𝐮𝐬 ฝากไว้ให้เพื่อนๆในวงการกลับไปดูตัวเลขของตัวเอง และหวังว่า GOPPAR ของท่านจะสร้างรอยยิ้มในวันศุกร์

https://www.facebook.com/idsophis/posts/pfbid0pLZWzM8UvpLJxxAGBEhxeVCY8iTH2r6Vbyz5uZmZTTADi4hSmgi2YNgaM1r6GcRVl