𝐏𝐫𝐞𝐝𝐢𝐜𝐭𝐢𝐯𝐞 𝐀𝐧𝐚𝐥𝐲𝐭𝐢𝐜𝐬

Revenue Management Assumption มีอยู่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตมักจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันที่ occupancy สูงมากๆเราก็สามารถคาดการณ์ได้ว่า วันที่ 31 ธันวาคมของปีนี้ occupancy ก็ต้องสูงอีกแน่เลย

เราจึงใช้ข้อมูล historical data มาเป็นฐานในการทำ forecasting ซึ่งต้องนำข้อมูลปัจจุบัน ทั้ง internal และ external data ที่มีผลกระทบต่อ demand และธุรกิจเข้ามาเป็นตัวแปลในการคาดการณ์ด้วย

เช่น เดือน พฤษภาคม ของทุกๆปี โรงแรม A จะมี corporate group จากบริษัทหนึ่งใน Singapore เข้ามาประชุมประจำปีและใช้ห้องพักเป็นประจำ แต่ปีนี้เซลส์ได้รับแจ้งแล้วว่า ประชุมประจำปีถูกเลื่อนเป็นมิถุนายน เราจึงไม่สามารถ forecast กรุ๊ปนี้ได้ในเดือนพฤษภาคม แต่ไป forecast ในเดือนมิถุนายนแทน เพราะฉะนั้นกิจกรรมใดที่ไม่ repeat ก็ต้องนำออกจากการคาดการณ์หรือปรับเปลี่ยน “การคาดการณ์" นั่นเอง

𝐏𝐫𝐞𝐝𝐢𝐜𝐭𝐢𝐯𝐞 𝐀𝐧𝐚𝐥𝐲𝐭𝐢𝐜𝐬 จึงหมายถึง การนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์เพื่อคากการณ์แนวโน้มและรูปแบบพฤติกรรม โดยปกติหลังจากที่เราวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว เราจะมองหาสองสิ่งหลักๆคือ จุดเหมือน (pattern) และ จุดต่าง เราจึงมีการจดบันทึกทุกๆครั้งเมื่อมีความต่างอย่างมีนัยยะเกิดขึ้น เพราะเมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเห็นการเปลี่ยนแปลงเราสามารถย้อนกลับไปดูถึงสาเหตุได้

วันนี้มาด้วยเรื่องเบาๆสบายๆ Happy Friday to All!

https://www.facebook.com/idsophis/posts/pfbid0vXeJDV4MZz2ZR3ePqYdqXPtNVPVvpz72cWwL8dkAzADBCgEMGmakDujvxEFfvtzRl