BCG Matrix
- tutlisa7
- Aug 30, 2023
- 1 min read
Updated: May 10, 2024
BCG Matrix ที่ได้ชื่อนี้เพราะโมเดลนี้เกิดที่ The Boston Consulting Group (BCG) โดย Alan Zakon ซึ่งเป็นพนักงานในขณะนั้น ร่างโมเดลขึ้นมาแล้วพัฒนามันกับเพื่อนร่วมงาน ผู้ก่อตั้ง BCG ชื่อ Bruce D. Henderson ทำให้โมเดลนี้เป็นที่รู้จักโดยใช้ชื่อง่ายๆว่า The Product Portfolio ตั้งแต่ปี 1970 แหนะ แต่คนเรียนสายธุรกิจก็ยังต้องเรียนมันอยู่ และเรียกสิ่งนี้ให้ง่ายกว่าเดิมอีกว่า growth-share matrix
BCG Matrix เป็นการวิเคราะห์ว่าสินค้าหรือธุรกิจของเราในปัจจุบันนั้นมีศักยภาพที่จะแข่งขันกับตลาดในระดับใด เพื่อใช้ในการเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของสินค้าหรือธุรกิจของเราโดยใช้ตาราง BCG Matrix หรือ Growth Share Matrix เป็นการเทียบกันระหว่าง อัตราการเติบโตของตลาด (Market Growth) และ ส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ซึ่งแบ่งออกเป็น4ช่องได้แก่ Star, Cash Cow, Question Marks และ Dog
Star เป็นสินค้าหรือธุรกิจที่มีลักษณะที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งหรืออาจจะเป็นแบรนด์แรกๆส่งผลให้ Star มียอดขายสูงตามการเติบโตของตลาด แต่ Star ก็ต้องพบกับการแข่งขันที่สูงและจะมีคู่แข่งรายใหม่มาเรื่อยๆ เพราะตลาดที่เติบโตสูงใครๆก็มองว่าทำกำไรได้ง่าย ง่ายๆคือ ถ้าStarอยากจะเป็นดาวต่อไปก็ต้องมีกลยุทธ์มาจัดการ เช่น การโฆษณาหรือการทำโปรโมชั่น ไม่งั้นก็อาจจะต้องตกไปอยู่ CashCow
Cash Cow เป็นสินค้าหรือธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีจากการที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงแต่ในขณะเดียวกันตลาดของสินค้าหรือธุรกิจนั้นๆไม่ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและยังมีคู่แข่งใหม่ๆเข้ามาไม่มากตรงข้ามกับ Star เป็นธุรกิจที่ได้กำไรสูงโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากนักเหมือนกับวัวนมที่สามารถรีดนมไปขายได้เรื่อยๆ แต่การลงทุนเงินก้อนใหญ่ในกลุ่มนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะ มันมักจะได้ผลตอบแทนที่ไม่ได้มากพอในระยะเวลาอันสั้น
Question Marks เป็นสินค้าหรือธุรกิจที่ขายได้น้อยทั้งที่เป็นสินค้าที่มีคนรอซื้อหรือใช้รออยู่มาก มีส่วนแบ่งตลาดต่ำในตลาดที่มีการเติบโตสูง โดยสาเหตุที่ทำให้ส่วนแบ่งตลาดต่ำนั้นอาจจะเพราะสินค้าหรือธุระกิจนั้นๆเพิ่งจะเข้ามาในตลาดทำให้ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือบริษัทยังมีปัญหาในการดูแลธุรกิจอยู่ ง่ายๆคือ ถ้า Question Marks สามารถจับทางได้ก็จะขึ้นไปเป็น Star แต่ถ้าไม่สำเร็จก็จะร่วงไปที่Dog เลย
Dog เป็นสินค้าหรือธุรกิจที่ส่วนแบ่งตลาดต่ำในตลาดที่มีการเติบโตต่ำด้วย เรียกได้ว่าเป็นช่องที่มีสถานการณ์แย่ที่สุด เนื่องจาก Dog อาจเป็นสินค้าหรือธุรกิจที่ล้าสมัยหรือตกเทรนด์ไปแล้ว หรืออาจะเพราะดูแลธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพจนไม่สามารถแข่งกับคู่แข่งในตลาดได้ วิธีหรือกลยุทธ์ของ Dog คือ ควรเลิกลงทุนและนำทรัพยากรที่มีไปทำอย่างอื่นแทน
ประโยชน์ของ BCG Matrix นอกจากการวิเคราะห์ว่าสินค้าหรือธุรกิจของเราว่าต้องแข่งขันกับตลาดในระดับใด และเพื่อเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสมแล้ว ยังทำให้เราสามารถจัดลำดับได้ว่าควรให้ความสำคัญกับส่วนใดก่อนเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าและสร้างมูลค่าสูงสุดให้บริษัทหรือเราเรียกว่า Portfolio Management
อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ BCG Matrix ต้องทำอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่การทำครั้งเดียวแล้วใช้วิธีการนี้ตลอดไปเพราะเมื่อเวลาผ่านไปประสิทธิภาพในการแข่งขันในตลาดก็อาจจะเปลี่ยนทั้งการแบ่งตลาดที่มากขึ้นหรือน้อยลงและอัตราการเติบโตของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา การวิเคราะห์ BCG Matrix จึงควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้เลือกใช้กลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง
หวังว่าแฟนเพจจะสนุกกับการอ่านเนื้อหาบนเพจ RevPlus แล้วแอดมินจะนำเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจมาแบ่งปันเรื่อยๆ







Comments