Inventory Management คืออะไร และมีประโยชน์ยังไงนะ

ไม่ว่าจะ high season หรือ low season ทั้งการ yield rates และการ manage inventory สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำรายได้สูงสุด เคยได้ยินบ่อยเหมือนกันว่า “สร้างโรงแรมมา เอาไปแปะไว้บน Online Travel Agents ให้ Agoda ขายไป” เอิ่ม…มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะพี่คะ มันไม่ใช่แค่ใส่ข้อมูล โพสต์รูป ใส่ราคาแล้วรอคนมาซื้อนา ถ้าง่ายเบอร์นั้นคงไม่ต้องมาประกาศขายโรงแรมกันเบอร์นี้ จากการทำงานในวงการมาเกือบจะยี่สิบปีละ ยืนยันได้เลยว่า การโพสต์ไว้แล้วรอลูกค้าเข้ามาซื้อนั้น ไม่เคยเกิดขึ้น หรือถ้าทำเช่นนั้นแล้วเกิดผลก็มหัศจรรย์มากแล้วค่ะ

เจ้า inventory management นี่ก็สำคัญพอๆกับ dynamic pricing เลย ในช่วง high season หรือ peak season ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่า มี unconstrained demand แน่ๆแล้ว สิ่งที่สามารถทำได้คือ ใส่ minimum length of stay, maximum length of stay, Close to arrival, เพิ่ม restriction, เช็ต cancellation policy ให้เข้มข้นขึ้น, มีอีกมากมายหลายสิ่งที่สามารถทำได้ในการคัดกรองลูกค้าที่จะให้ประโยชน์กับโรงแรมมากที่สุดในเวลาที่โรงแรม สวยเลือกได้

แล้วถ้า low season ละ ห้องไม่เต็มอยู่แล้ว ก็ปล่อยมันเถอะ ไม่น่าจะใช่นะคะอันนี้ ถ้าสังเกตุจริงๆจะเห็นว่า แม้ในช่วง low season นั้นก็ยังมีบางวันที่ห้องแน่น บางวันที่ไม่มีแขกพัก ก็ไม่มีเอาเสียเลย เพราะฉะนั้นในวันที่มี demand ซึ่งจำนวนวันที่น้อยนิดนั้น โรงแรมก็ควรจะหาประโยชน์จากวันนั้นๆให้ได้มากที่สุด

และการ manage inventory นั้นไม่ได้ทำกันเฉพาะช่วงที่ occupancy สูงๆเท่านั้น ช่วงเวลาที่ occupancy ไม่สูงบางครั้งก็เกิดอาการจองไม่ได้ ทั้งที่ห้องก็ดูว้างว่าง occupancy ก็น้อยนิด ดูตัวอย่างจากภาพที่แนบมานะคะ

โรงแรม กอไก่ มีห้องพักอยู่ 30 ห้อง แบ่งเป็น 6 ประเภท ในสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนเมษายน โรงแรมนี้มี occupancy ที่ 45% แต่ทว่า ลูกค้าจองเข้ามายังไงก็จองไม่ได้

มันคือความจริงยิ่งกว่าจริง มันมี Unconstrained Demand ที่แท้ทรู ไม่ได้เกิดจากอะไร นอกจากการปล่อยให้โรงแรมบริหารตัวมันเอง ขายด้วยตัวของมันเอง มีอะไรก็ขายเท่านั้นล่ะค่ะ ไม่มีก็ไม่ขาย ด้วยเหตุนี้มันถึงต้องมี Inventory Management เกิดขึ้น เพื่อ Optimize Revenue แล้วเจ้า Inventory Management นี้มีสาระสำคัญอะไรบ้าง

1. Straight-line availability ทำให้มีห้องพักว่างในยาวๆ ลูกค้าที่ต้องการจองหลายวันจะได้สามารถจองได้ ลูกค้าที่จองวันเดียวกันคนอื่น ก็ใส่ restriction ไปค่ะ 2. Restrictions เพื่อกันลูกค้าคนที่ไม่ใช่ออกไป รอคนที่ใช่เข้ามา CTA, CTD, Stop Sell, Min Stay, Max Stay 3. Booking Policies and Conditions สิ่งเหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตาม seasons และตามความเหมาะสม 4. Booking Pace เราสามารถ manage inventory และราคาไปพร้อมๆกันได้ จองก่อนถูกกว่าแต่ไม่คืนเงินนะจ๊ะ จองทีหลังก็แพงหน่อยนะคะ 5. Inventory by Segment แน่นอนว่า โรงแรมมีหลาย distribution channels มีหลาย segment ที่ต้องบริหาร segment ที่เป็น negotiated pricing ราคาถูกหน่อยก็จะถูกจำกัดจำนวน inventory เพราะถ้าขายราคาเดียวกันถึงห้องสุดท้าย ก็คงไม่ได้ maximize revenue เป็นแน่

มีอีกหลายสิ่งอย่างที่สามารถทำได้ที่เกี่ยวกับ Inventory Management เพราะห้องพักมี Time Perishable Inventory เป็นคาแรกเตอร์ ห้องพักของเมื่อวานจะเอามาขายวันนี้ไม่ได้ นั่นเอง