Revenue Management คืออะไร (คำถามนี้มันฟังดูง่าย แต่จะตอบยังไงดีล่ะ)

Revenue is defined by Webster’s as “an item or source of income” while Management is “skillful managing; careful, tactful treatment.”

Revenue Management is the act of skillfully, carefully, and tactfully managing, controlling, and directing capacity and sources of income, given constraint of supply and demand.”

การจัดการรายได้ จึงหมายถึง การใช้ความชำนาญ ความรอบคอบ ในการบริหารจัดการ ควบคุมปริมาณและแหล่งที่มาของรายได้ ตามหลักอุปสงค์ อุปทาน

อ้าวถ้า Revenue หมายถึงรายได้ Revenue Management ก็ไม่มีส่วนได้เสียกับผลประกอบการหรือกำไรน่ะสิ เพราะ Revenue มาก่อนต้นทุนและค่าใช้จ่าย แหมๆๆๆๆ สรุปมาง่ายๆอย่างนั้นเลย ช้าก่อนๆ Revenue ของโรงแรม ปกติหมายรวมถึง รายได้จากห้องพัก และรายได้จาก operating functions (revenue generating functions) อื่นๆที่เรียกว่า other revenue นอกเหนือจากนั้น Revenue Management ของบางโรงแรมยังมีความรับผิดชอบต่อรายได้ของ owners/stakeholders ซึ่ง รายได้ หัก operating cost ถึงเรียกว่ารายได้จริงๆ กรอบหน้าที่ความรับผิดชอบของ Revenue Management จึงรวมไปถึง GOP หรือ Gross Operating Profit บางทีก็ไปถึง EBIT (หัก VAT and Interests) และ EBITDA (นำ depreciation amortization มาพิจารณาด้วย)

หลายๆท่านที่ทำงานโรงแรม เคยเรียนกับอาจารย์เอมี่ หรือเรียนจากสำนักอื่นๆ อาจจะคุ้นเคยกับประโยคนี้

Revenue Management is “Selling the right product, to the right customer, at the right time, for the right price, through the right channel” และขอเพิ่มอีกนิดนึงว่า with the best cost efficiency นี่ก็ฟังดูง่าย แต่ถ้าจะให้อธิบายก็คงใช้เวลาหลายวัน

นอกเหนือจากที่กล่าวมาด้านบน Revenue Management ยังรวมถึง Disciplines อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

Economics: Markets, Forecasts, Cost, Scarcity, and Elasticity. Marketing: 4Ps of Marketing- Product, Price, Place, and Promotion. Psychology: Decision making process Finance: The current and future value of money, domestic monetary supply, and global monetary policies. Strategic Management: Goals, Budget, Target, Objectives, etc.

มาถึงตรงนี้ ท่านที่เรียน Economics คงทราบแล้วว่า เราเรียน Econometric ไปเพื่ออะไร ทุกสิ่งทุกอย่างมีที่มาและเหตุผลเสมอ การใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมย่อมเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากหลักการณ์ ประสบการณ์ในการลองผิดลองถูกมาทั้งชีวิต (ที่เค้าเรียกเกร๋ๆว่า AB Testing ใน Digital Marketing) ก็เป็นหลักประกันความสำเร็จได้เช่นกัน “strategy ที่เคยประสบความสำเร็จแล้วในอดีตจะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอีกในอนาคต ส่วน strategy ที่เคยล้มเหลวในอดีต จะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จน้อยกว่า จริงมั้ยคะ

การแก้ปัญหาและวางกลยุทธ์ตามหลักการณ์และเหตุผลจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยง อยากให้มาเรียนคอร์ส Comprehensive Revenue Management for Hotels: Building a Solid Foundation & Managing Disruption กัน จะได้ทราบว่ามีอะไรที่โรงแรมสามารถทำได้อีกมากมายในสถานการณ์ต่างๆที่ประสบอยู่